“ฟาลเคสการ์ด”ประทับใจกับมาตรฐานฟุตบอลไทย ชมสรรวัชญ์คือคีย์แมนของทีม

 

โดยนายทวารวัย 26 ปี มีพ่อเป็นชาวเดนมาร์ก และแม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ เริ่มหลงรักฟุตบอลจากพ่อและพี่

ชาย ในวัย 5 ขวบ พ่อของเขาชวนไปเล่นกับสโมสรท้องถิ่นที่ชื่อว่า คาสตรุป โบลด์คลุป ก่อนมีโอกาสตาม

รอยปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ด้วยการย้ายมาร่วมบรอนด์บี้ในปี 2010

“ในยุคของผม ทุกคนอยากเป็นผู้รักษาประตู ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น การเล่นฟุตบอลกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมตั้งแต่ยังเด็ก”

“ผมกลายเป็นมือหนึ่งของโอเดนเซ่ในปี 2015 หลังย้ายมาจากบรอนด์บี้ เราเริ่มต้นได้ดีจนสามารถเป็นจ่าฝูงของลีกได้ แต่โชคร้ายที่เอ็นไขว้หน้าเข่าของผมฉีกขาดในเกมที่พบกับอาร์ฮุสจนเข้ารับการผ่าตัด กลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผมหลังจากโชว์ฟอร์มกับสโมสรได้ดี”

 

หลังจากที่โดนโอเดนเซ่ปล่อยตัว ฟาลเคสการ์ดจึงย้ายไปทีมคู่แข่งอย่างมิดทิลแลนด์ แต่ก็พบอุปสรรคอีก

ครั้ง จนกระทั่งแบงค็ิก ยูไนเต็ด ติดต่อมา

“ผมย้ายมาร่วมทีมมิดทิลแลนด์ เพราะทางสโมสรต้องการผมและมีแผนให้ผมลงเล่น แต่เขากลับขายผู้รักษาประตูอีกคนแล้วซื้อคนที่มีมีประสบการณ์มากกว่า จากนั้นแบงค็อกก็ติดต่อผมมา จึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี่”

 

ถึงแม้แบงค็อกสนใจที่จะดึงตัวลูกครึ่งรายนี้ แต่เขาก็รอโอกาสเพราะปัญหาเรื่องพาสปอร์ต เพราะตัวเขา

มีเป้าหมายที่จะติดทีมชาติฟิลิปปินส์ในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าเขาจะโชว์ฟอร์มกับแบงค็อก ยูไนเต็ดได้ดี

แค่ไหน

“เมื่อผู้อำนวยการด้านกีฬาของแบงค็อกติดต่อผม ผมไม่มีพาสปอร์ตฟิลิปปินส์และพวกเขาต้องการผมในฐานะโควตาอาเซียน” ฟาลเคสการ์ด อธิบาย

“ผมจึงบินไปมะนิลาหลายๆครั้ง เพื่อยื่นเอกสารทำพาสปอร์ต ในที่สุดผมก็ได้เป็นคนฟิลิปปินส์จริงๆ”

“แบงค็อกคือเป้าหมายหลักของผม ผมต้องปรับตัวทั้งในเรื่องสภาพอากาศและสไตล์การเล่น ยินดีที่ได้กลับมาลงอีกครั้ง หลังจากพักเบรกในหน้าหนาว”

“ผมมั่นใจว่าทีมชาติฟิลิปปินส์ไม่เรียกคนที่ฟอร์มไม่ดีติดทีมชาติ ผมจึงต้องโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุด จะเป็นเกียรติอย่างยิ่งถ้าผมได้ติดทีมชาติ แล้วทำให้ครอบครัวที่ฟิลิปปินส์ของผมรู้สึกภาคภูมิใจในตัวผม”

 

หลังจากที่ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้หลายเดือนแล้ว ฟาลเคสการ์ดประทับใจกับมาตรฐานฟุตบอลใน

ประเทศไทย ซึ่งทำให้เขามั่นใจได้ว่า เขาได้ร่วมทีมที่สุดยอดในอาเซียนอีกทีมหนึ่ง

“ผู้เล่นไทยมีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะสรรวัชญ์ เดชมิตร เขาเป็นคนที่มีเทคนิคและวิสัยทัศน์ที่ยอเยี่ยม” ฟาลเคสการ์ด กล่าวเพิ่มเติม

“จากนั้นก็มี 3 ผู้เล่นบราซิลอย่างวานเดอร์ หลุยซ์, ร็อบสัน และเอเวอร์ตัน อีกทั้งยังมีผู้เล่นอาร์เจนติน่อย่างคาร์ลอส ซาลอม ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีประวัติยอดเยี่ยมมาร่วมทีมอีกด้วย”

“ผมเห็นแบงค็อกเล่นได้ยอดเยี่ยมภายใต้การนำของมาโน่ โพลกิ้ง เขาเป็นคนที่ดึงศักยภาพของผู้เล่นและสร้างปรัชญาฟุตบอลในสไตล์ของตนเอง”

ที่มา:[Buaksib]

 

คลิ๊กลิงค์ —>     เเทงบอล 
คลิ๊กลิงค์ —>   

บทวิเคราะห์อื่นที่น่าสนใจ