เอเอฟซีบุกญี่ปุ่นถามชนาธิปตรงๆ คิดยังไงเวลาถูกเรียก “เมสซี่เจ”

ทีมงานเอเอฟซี ดอท คอม เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อสัมภาษณ์ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในหลากหลายประเด็น รวมถึงความฝันที่ “เจ” ตั้งใจเอาไว้ บทความ เขียนโดย ดาเนียล ปอร์เดส นักข่าวของเอเอฟซี ใช้หัวเรื่องว่า “ความภูมิใจของไทยแลนด์” (Pride of Thailand) โดยมีเนื้อหาดังนี้

ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นเหมือนหัวใจสำคัญของฟุตบอลไทยในขณะนี้ เขาพาไทยลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเชีย ขณะที่กับสโมสร ก็ได้เล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กับเมืองทอง แถมตอนนี้กำลังผจญภัย พบความตื่นเต้นครั้งใหม่ ในญี่ปุ่น

แม้จะผ่านมา 9 เดือนเศษๆ แต่ ปี 2017 ก็คือปีแห่งความทรงจำของชนาธิป มิดฟิลด์วัย 24 ได้เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรก ตามด้วยได้เล่นลีกใหญ่ระดับเจลีก

         “ปีนี้ สำหรับผมเหมือนความฝัน ผมฝันมาตลอดว่าสักวัน ผมต้องเล่นในเจลีกให้ได้ ซึ่งมันก็เป็นฝันของนักเตะไทยหลายคน นอกจากนั้น ก็ยังฝันอยากไปเล่นเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย”

 

“ตอนนี้ ฝันของผม เป็นจริงทั้งสองอย่าง ในวินาทีที่นั่งอยู่ตอนนี้”

 

ย้อนกลับไปในปี 2012 ชนาธิปที่กำลังแจ้งเกิดกับบีอีซี เทโรศาสน ได้โอกาสมาคัดตัวที่ญี่ปุ่น กับสโมสรอย่างกัมบะ โอซาก้า และ ชิมิสึ เอสพัลส์ แต่ปรากฎว่า “เจ” ได้โอกาสลงทดสอบฝีเท้าแค่ 10 วัน กับชิมิสึ เท่านั้น และสุดท้ายไม่ถูกเรียกตัวติดทีม

“ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เจเผย ” ตอนนั้นผมไม่ได้โอกาสซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่เลยสักวันเดียว”

 

“บางทีผมอาจต้องพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ก็เป็นได้ ผมอยากจะเซ็นกับทีมญี่ปุ่นนะ แต่พวกเขาไม่ยื่นข้อเสนออะไรให้เลย”

 

ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชนาธิปย้ายมาอยู่กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร และทำผลงานได้น่าประทับใจ ส่วนผลงานทีมก็มีแพ้ชนะปนกัน ยังมีแต้มเหนือโซนตกชั้นเล็กน้อย

 

สำหรับเขา นี่คือประสบการณ์ใหม่ ซึ่งตัวชนาธิปเต็มใจที่จะรับมันไว้

 

“แน่นอน ระดับของฟุตบอลที่นี่สูงกว่าที่ไทยมาก ผมต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีม แต่ผมก็ยังแฮปปี้ที่ได้โอกาสลงเล่นนะ”

 

“การปรับตัวที่ญี่ปุ่นไม่ยาก เพราะ ไทยกับญี่ปุ่น จริงๆก็ไม่ห่างกันมาก  สิ่งที่ผมกลัวคือ กลัวคนอื่นจะดูถูกและไม่ยอมรับผมมากกว่า”

 

“อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ทั้งโค้ช และเพื่อนร่วมทีม ปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นครอบครัว ซึ่งมันช่วยผมเยอะมาก ผมมีความสุขมากที่ซัปโปโร นี่เป็นเมืองที่สงบ อากาศบริสุทธิ์ ผู้คนใจดี”

 

“เวลาว่าง หลังซ้อม ผมก็ไปถ่ายรูปตามที่ต่างๆ อ่านการ์ตูน ดูหนัง ทำเรื่องพวกนี้ ผมก็แฮปปี้ และที่สำคัญ ผมก็เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วย”

ก่อนหน้าชนาธิป มีนักเตะจากอาเซียนหลายคน มาเล่นในฟุตบอลญี่ปุ่น แต่ไม่มีใครประสบความสำเร็จ ทั้ง อิรฟาน บัคดิม ของอินโดนีเซีย และจัน วัทนากา ของกัมพูชา ซึ่งชนาธิปได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า

เอเอฟซีบุกญี่ปุ่นถามชนาธิปตรงๆ คิดยังไงเวลาถูกเรียก "เมสซี่เจ"

 

       “จริงๆผมไม่ได้กังวลเลยนะ เรื่องนักเตะที่มาก่อนผมแล้วไม่เวิร์ก คือตอนนี้ผมแฮปปี้ และไม่ได้แคร์เรื่องนักเตะอาเซียนคนอื่นๆในอดีต ผมมาที่นี่เพื่อ ไขว่คว้าความฝัน ผมอยู่ที่นี่เพื่อทำให้คนไทยภูมิใจ”

 

“เป้าหมายหลักของผมคือช่วยทีมให้รอดตกชั้นให้ได้ แต่อีกเป้าหมายหนึ่ง คือ ผมอยากจะประสบความสำเร็จมากๆ เพื่อนำทางให้คนไทย คนอื่นๆ ได้โอกาสมาเล่นที่เจลีกบ้าง”

 

“ในความรู้สึกของผม ทุกนัดที่ลงเล่น ผมเป็นเหมือนตัวแทนประเทศ ไม่ต่างอะไรกับตอนที่ผมสวมเสื้อทีมชาติไทยเลย”

 

ชนาธิป สรงกระสินธ์ มีอีกชื่อหนึ่งที่คนเรียกกันว่า “เมสซี่เจ” ซึ่งมาจากลีโอเนล เมสซี่ สตาร์ของบาร์เซโลน่านั่นเอง ซึ่ง “เจ” ได้กล่าวว่า เขาไม่ใช่เมสซี่

 

“มีนักเตะหลายคน ที่ผมดูเอามาเป็นแนวทาง ดีเอโก้ มาราโดน่า, ซีเนอดีน ซีดาน, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, โรนัลโด้ บราซิล และ โรนัลดินโญ่”

 

“สำหรับลีโอเนล เมสซี่ ผมก็ภูมิใจนะ เวลามีคนเรียกผมแบบนั้น แต่ความจริงก็คือ ผมไม่ใช่เมสซี่”

 

“ผมไม่ใช่คนอื่น ชนาธิปคือชนาธิป”

 

เอเอฟซีบุกญี่ปุ่นถามชนาธิปตรงๆ คิดยังไงเวลาถูกเรียก "เมสซี่เจ"

บทวิเคราะห์อื่นที่น่าสนใจ