เป็นอีกทีมที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ใครเข้ามาเป็นกุนซือใหญ่ให้กับทีมหลังก่อนหน้านี้เพิ่งแห้วกุนซือญี่ปุ่นที่ได้ปฎิเสธที่จะเข้ามาคุมทัพให้ไปแล้วทั้งๆที่ทีมชลบุรีฯ พร้อมจะลงทุนควักเงินก้อนโตถึงเดือนละ 1 ล้านบาทเป็นค่าเหนื่อยให้
ล่าสุดมีรายงานมาจากประธานเทคนิคของทีม “ฉลามชล” อย่าง “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ว่า “ผมในฐานะผู้รับผิดชอบพิจารณาสรรหาโค้ชคนใหม่ของทีมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ทั้งการพิจารณาและติดต่อประสานงานโดยผมจะพยายามให้ได้บทสรุปกุนซือคนใหม่ของทีมก่อนสิ้นปีนี้ให้ได้เพื่อที่จะเขาจะได้รีบเดินทางมาเริ่มต้นคุมทีมหลังเทศกาลปีใหม่ทันทีเนื่องจากเราเองก็ต้องการให้โค้ชใหญ่คนใหม่ได้เข้ามาเริ่มงานกับทีมให้เร็วที่สุดเพราะเหลืออีกแค่ไม่กี่วันฤดูกาลใหม่ 2018 ก็จะเริ่มต้นเดือนกพ. 61 แล้วหากมาช้าเกินไปจะทำให้โค้ชใหม่คงทำอะไรกับทีมได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าไหร่”
สำหรับว่าที่กุนซือใหญ่คนใหม่ของ ชลบุรีฯ นั้น มีรายงานมวาว่าขณะนี้เหลือแค่ 2 ช้อยส์เท่านั้นคือ โค้ชชาวเกาหลีใต้ ที่ผ่านประสบการณ์คุมทัพทีมในเคลีกของเกาหลีใต้มากับหลายทีม ส่วนอีกรายที่ถือเป็นแคนดิเดตสำคัญก็คือ โค้ชชาวเยอรมัน วัย 55 ปีที่มีแนวโน้มว่าน่าจะเป็น รายของไฮนซ์ กึนเทอร์ ไชล์ ( HEINZ GUNTER SCHHIL ) อดีตนักเตะและผู้ช่วยโค้ชทีมไอน์ทรัค บราวน์ชไวก์ ที่เคยผ่ายการค้าแข้งกับในลีกเมืองเบียร์ทีมนี้มาถึง ราว 10 ปี ระหว่าง คศ. 1984-1993 ที่ลงเล่นให้ทีมถึง 229 นัด และเคยเป็นผช.กุนซือให้กับทีม ในฤดูกาล 2007-2008 นั่นเอง
งบ100 ล้าน,ขอติด1ใน 5 ,ยก 3 ทีมแชมป์
ส่วนการคาดหวังตั้งเป้าหมายกับผลงานของทีมในฤดูกาล 2018 ของทีมดังภาคตะวันออกอย่าง “ฉลามชล” นั้นเรื่องนี้ “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของทีมกล่าวว่า “ฤดูกาลหน้าของไทยลีกนั้นที่ผมทราบมาจากทีมงานบริหารสโมสรทีมชลบุรีฯ น่าจะมีงบประมาณทำทีมราว 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นเม็ดเงินจำนวนที่ทีมใช้มาโดยตลอดส่วนเป้าหมายนั้นในมุมมองของผมยังมีความเชื่อมั่นว่าทีมน่าจะมีลุ้นจบด้วยการเป็นท็อปไฟฟ์ได้แน่นอน”
ผู้สื่อข่าวสยามกีฬายังได้สอบถามกับ “โค้ชเฮง” ด้วยว่า ทีมไหนมีโอกาสจะคว้าแชมป์ไทยลีก 2018 ไปครองเรื่องนี้ “โค้ชเฮง” กล่าวว่า “ให้ผมฟันธงผมขอเลือก 3 ทีมที่ดูแล้วมีศักยภาพที่จะเป็นเจ้าของแชมป์ไทยลีกฤดูกาลหน้า 3 ทีมที่ว่าก็คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า, เอสซีจี เมืองทองฯ รองแชมป์เก่าดีกรีแชมป์ โตโยต้าลีกคัพ , และ สิงห์เชียงรายฯ แชมป์ช้าง เอฟเอคัพ 2017 นั่นเอง”
“ที่เหลือนอกจากนี้ผมมองว่าหมดสิทธิบางคนถามผมว่าทำไมไม่มีชื่อทีมแบงค็อกฯ ร่วมเป็น 1 ในเต็งแชมป์ในมุมมองผมๆมองว่าการที่ทีมเขาเสียกองหน้าตัวเก่งอย่าง ดราแกน บอสโควิช ไปทำให้ทีมขาดประสิทธิภาพไปเยอะแม้ว่าทีมจะคว้านักเตะใหม่มาเสริมทัพแต่อย่าลืมว่านักเตะใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ทีมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายกับเวลาแค่ไม่กี่เดือนที่จะมาปรับตัวให้เข้ากับทีมใหม่และเพื่อนร่วมทีมใหม่จนทำให้โชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างออกมาได้”
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —>
