ส.บอลสเปนให้สิทธิ์4อันดับแรกลุยชปล.ถ้าตัดจบ
สหพันธ์ฟุตบอลสเปน (อาร์เอฟอีเอฟ) ประกาศว่าถ้าหากศึก ลา ลีกา สเปน ประจำฤดูกาล 2019-20 ไม่สามารถกลับมาแข่งกันให้จบได้แล้วนั้น พวกเขาก็แผนที่จะตัดสินโควตาทีมที่จะได้สิทธิ์เล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปในฤดูกาลหน้าตามอันดับในตารางคะแนนในปัจจุบัน
สเปน ถือเป็นหนึ่งในชาติลำดับต้นๆ ที่ได้รับความเสียหายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุด โดยตอนนี้พวกเขามีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกที่จำนวน 190,839 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตก็สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกที่ 20,002 ราย ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ทำให้ลีกสูงสุดของสเปนต้องพักการแข่งตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม เป็นต้นมา
อังดรู กั๊มป์ส เลขาธิการทั่วไปของ อาร์เอฟอีเอฟ เผยว่า “อาร์เอฟอีเอฟ อยากทำงานของตัวเองให้เรียบร้อย ในประเด็นเกี่ยวกับการพักการแข่งขัน เราได้รับคำร้องจาก ยูฟ่า เกี่ยวกับเรื่องทีมที่จะได้สิทธิ์เล่นรายการระดับทวีปยุโรปในฤดูกาลหน้า ด้วยเหตุนี้ คณะตัวแทนของ อาร์เอฟอีเอฟ จึงได้กำหนดแผนในกรณีที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมา อย่างเช่นการที่ไม่สามารถเล่นให้จบฤดูกาลได้ เพื่อที่ทุกสโมสรจะได้รับทราบถึงเรื่องใหม่ๆ ที่พวกเขาต้องเจอ”
ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด เซบีย่า และ เรอัล โซเซียดาด ซึ่งเป็นที่ 1-4 ตามลำดับในตอนนี้นั้น จะได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ขณะที่ เคตาเฟ่ กับ แอตเลติโก มาดริด ที่ครองอันดับ 5 กับ 6 ตามลำดับ จะได้เล่น ยูฟ่า ยูโรปา ลีก
อย่างไรก็ตาม โกเป้ สื่อของประเทศสเปน บอกว่าสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แจ้งกับ แอต. มาดริด แล้วว่า “ตราหมี” จะได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่ติดท็อปโฟร์เมื่อถึงเวลาที่ฤดูกาลโดนตัดจบ เนื่องจาก ยูฟ่า มองว่าพวกเขาเป็นทีมที่มีความสำคัญมากๆ ต่อการแข่งขันรายการนี้ อย่างเช่นการที่เคยไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในปี 2014 กับ 2016 โดย โกเป้ เสริมว่าในซีซั่น 2020-21 ยูฟ่า จะมีสิทธิ์เชิญทีมไหนก็ตามลงเล่นศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ แต่ไม่ได้ระบุให้แน่ชัดว่าวิธีการมันเป็นยังไง
ปธ.เคตาเฟ่มีเคืองหากเป็นเช่นนั้นจริง
ในขณะที่ เคตาเฟ่ นั้น นี่ถือเป็นข่าวร้ายอย่างมาก เพราะถึงแม้พวกเขาจะเป็นอันดับ 5 แต่ก็มีคะแนนเท่ากับ โซเซียดาด ที่เป็นอันดับ 4 รวมถึงยังมีผลต่างประตูได้-เสีย อยู่ที่ +12 ลูกเท่ากันด้วย แถมที่จริงเงื่อนไขการจัดอันดับในตอนนี้ก็ยังไม่ครบถ้วน เพราะใน ลา ลีกา ถ้าเกิด 2 ทีมมีคะแนนเท่ากันแล้วนั้น มันก็จะมาดูผลงานการเจอกันเองเป็นเงื่อนไขอันดับ 2 ส่วนเงื่อนไขอันดับ 3 ที่จะใช้จัดอันดับคือผลต่างประตูได้-เสีย จากเกมที่เจอกันเอง โดยในนัดแรกที่เจอกัน เคตาเฟ่ บุกไปชนะ โซเซียดาด 2-1
นั่นหมายความว่าที่จริงแล้วมันยังไม่ควรจะตัดสินว่า โซเซียดาด สมควรมีอันดับที่ดีกว่า เคตาเฟ่ เพราะทั้ง 2 ทีมยังต้องเจอกันอีก 1 นัดถึงจะตัดสินได้ว่าใครมีผลงานการเจอกันเองแบบรวมทั้ง 2 เกมดีกว่ากัน หรือถ้าจะตัดจบแล้วดูเฉพาะผลงานที่เจอกันแค่นัดเดียวจริงๆ เคตาเฟ่ ก็สมควรจะอยู่ในอันดับดีกว่า โซเซียดาด จากการที่บุกไปชนะอีกฝ่ายได้ โดยที่ตอนนี้ โซเซียดาด ได้อยู่ในอันดับดีกว่ามันเป็นแค่เพราะพวกเขาทำประตูได้เยอะกว่า เคตาเฟ่ เท่านั้น
เดิมที เคตาเฟ่ หวังว่าพวกเขาจะได้สิทธิ์เล่นศึกชิงถ้วย “บิ๊กเอียร์” ในซีซั่นหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ทีมมีการเงินดีตามไปด้วย หลังจากตอนนี้ เคตาเฟ่ ถือเป็นหนึ่งในทีมที่เล็กที่สุดของ ลา ลีกา ซึ่ง อังเคล ตอร์เรส ประธาน เคตาเฟ่ ออกมายอมรับตามตรงว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้มากๆ
บิ๊กบอส เคตาเฟ่ เผยว่า “สหพันธ์รีบตัดสินใจ หรือไม่ก็เมินเฉยต่อกฎ เรามี 46 คะแนนเท่ากับ โซเซียดาด และยังมีผลต่างประตูได้-เสียโดยรวมเท่ากันด้วย แต่กฎมันระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเมื่อจบฤดูกาล (ในกรณีที่ 2 ทีมมีคะแนนเท่ากัน) แล้วนั้น ผลต่างประตูได้-เสียของเกมที่เจอกันเองจะเป็นสิ่งที่ใช้ตัดสินอันดับในตารางคะแนน และเราก็บุกไปชนะ เรอัล โซเซียดาด ได้ด้วย ที่ตอนนี้ เรอัล โซเซียดาด ได้เป็นอันดับ 4 มันเป็นแค่เพราะพวกเขาทำประตูรวมได้มากกว่าเราเท่านั้น แต่กฎมันระบุเอาไว้ว่าสิ่งที่จะใช้ตัดสินอันดับของ 2 ทีมคือผลต่างประตูได้-เสียของเกมที่เจอกันเอง”
บาร์เซโลน่าพร้อมโละทุกคนเว้นแค่….
บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน พร้อมพิจารณาปล่อยผู้เล่นทุกคนหลังจบฤดูกาลนี้ ยกเว้นแค่ ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมชาวอาร์เจนไตน์, เฟรงกี้ เดอ ยอง กองกลางชาวดัตช์ และ มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ผู้รักษาประตูมือหนึ่งชาวเยอรมัน ตามรายงานจาก อีเอสพีเอ็น สื่อกีฬาชั้นนำของโลก เมื่อวันศุกร์ที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา
ถึงแม้ตอนนี้สโมสรกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “โควิด-19” แต่ก็เชื่อกันว่า บาร์เซโลน่า ยังคงมีเป้าหมายที่จะคว้าแข้งดาวดังมาเสริมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ โดยล็อกเป้าไปที่ เนย์มาร์ ดาวยิงซูเปอร์สตาร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หัวหอก อินเตอร์ มิลาน เป็นหลัก กระนั้นในทุกๆ ดีลน่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนตัวนักเตะ มากกว่าการทุ่มเงินก้อนโต
อีเอสพีเอ็น ระบุว่า บาร์เซโลน่า พร้อมใช้นักเตะทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาทุกดีล ยกเว้นแค่ในรายของ เมสซี่, เดอ ยอง และ แทร์ สเตเก้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ทั้งสามรายนี้จะได้อยู่กับทีมต่อไปในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ฤดูกาลหน้า บาร์เซโลน่า จะได้นักเตะที่เซ็นสัญญาเอาไว้ล่วงหน้าอย่าง ฟรานซิสโก้ ตรินเชา กองหน้าชาวโปรตุกีสของ บราก้า วัย 20 ปี และ เปดรี้ มิดฟิลด์ชาวสแปนิชของ ลาส ปัลมาส วัย 17 ปี มาร่วมทัพ
