อัพเดทความเคลื่อนไหว ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน 23/04/2563
“ชาน” ชู “ซานโช” ขึ้นแท่นแข้งเวิลด์คลาส
เอ็มเร่ ชาน กองกลางเลือดเบียร์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน เชื่อว่า เจดอน ซานโช ปีกดาวรุ่งเพื่อนร่วมทีม มีฝีเท้าเข้าขั้นนักเตะระดับโลกเรียบร้อย
ฤดูกาลนี้ ซานโช ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นที่หมายปองของหลายสโมสรระดับท็อปในยุโรป หลังกด 14 ประตู กับ 15 แอสซิสต์ จากการลงเล่นเกมลีก 23 นัด ซึ่ง ชาน ยอมรับว่า ไม่แปลกใจเลยกับความยอดเยี่ยมของ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปี แม้ตนเพิ่งย้ายจาก ยูเวนตุส มาร่วมทัพ “เสือเหลือง” เมื่อช่วงเดือนมกราคมก็ตาม
“ก่อนย้ายมา ดอร์ทมุนด์ ผมก็รู้อยู่แล้วว่า เขาเป็นนักเตะที่เก่งมากๆ” อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค กล่าวกับ บิลด์ สื่อดังบ้านเกิด “แต่หลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่ มันทำให้ผมรู้เลยว่า เขาคือนักเตะระดับเวิลด์คลาส และอาจจะเก่งที่สุดด้วย เมื่อเทียบกับบรรดานักเตะวัยเดียวกัน เขามีคุณสมบัติครบทุกอย่าง สำหรับการเป็นนักฟุตบอลชั้นยอด และแน่นอน เขามีอนาคตที่สดใจรออยู่”
ทั้งนี้ มีสโมสรมากมายที่มีข่าวเกี่ยวโยงกับ ซานโช ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส หรือแม้กระทั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเก่าของเจ้าตัว
เผยแมนยูเคยพยายามคว้าซานโช่ตั้งแต่3ปีก่อน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยพยายามจะคว้าตัว เจดอน ซานโช่ ไปร่วมทัพตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวจะย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่อริร่วมเมืองเมื่อปี 2017 ตามการเปิดเผยของ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อชื่อก้องประจำเมืองแมนเชสเตอร์
ซานโช่ คือหนึ่งในนักเตะที่ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มากที่สุดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังจากที่แข้งวัย 20 ปีทำผลงานได้โดดเด่นสุดๆ กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ขณะที่ “ปีศาจแดง” ก็ต้องการทำให้เกมรุกของพวกเขามีความอันตรายมากกว่านี้
ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ บอกว่าตอนปี 2017 นั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เคยพยายามที่จะเอา ซานโช่ ไปจาก แมนฯ ซิตี้ มาแล้ว และ โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมของพวกเขาในตอนนั้นก็อนุมัติการล่าตัวแข้งชาวอังกฤษด้วย โดยที่ตอนนั้นมีการพูดกันด้วยว่ามันอาจจะเกิดการย้ายทีมได้แม้ว่าจะเป็นการย้ายทีมโดยตรงระหว่าง 2 ทีมคู่อริก็ตาม จนทำให้ตอนนั้นดูเหมือนว่าดีลมีโอกาสจบลงด้วยดี
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ซานโช่ ก็เลือกที่จะไปซบ ดอร์ทมุนด์ ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 320 ล้านบาท) เพราะเขาให้ความสำคัญกับเรื่องโอกาสการได้เล่นให้ทีมชุดใหญ่มากที่สุด และมองว่า “เสือเหลือง” สามารถมอบสิ่งนั้นให้เขาได้มากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งสุดท้ายมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะเจ้าตัวได้โอกาสประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ของ “เสือเหลือง” หลังจากย้ายไปอยู่ในเมืองเบียร์ได้เพียงราว 7 สัปดาห์เท่านั้น
