“เป๊ป” ปล่อยมุขอดคุม ผี’ เพราะฟังเซอร์ไม่รู้เรื่อง!!

เป๊ป ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวในอดีตก่อนมีคิวนำ ซิตี้ บุกเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคมนี้ โดยเชื่อกันว่าเขาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะมาคุม ยูไนเต็ด ต่อจากเฟอร์กี้ หลังเคยดื่มไวน์ และรับประทานอาหารกับ เฟอร์กูสัน ที่นิวยอร์ก ช่วงเว้นวรรคหลังอำลาคัมป์ นู บาร์เซโลน่า ก่อนรับจ๊อบคุมทีม “เสือใต้” ปี 2013

 

เฟอร์กูสัน เผยเรื่องนี้ด้วยเองในหนังสือประวัติส่วนตัวว่า “ผมดินเนอร์กับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ นิวยอร์ก เมื่อปี 2012 แต่ผมไม่ได้ทาบทามเขาโดยตรงเพราะผมยังไม่คิดเรื่องการรีไทร์ เขาได้แชมป์มากมายกับบาร์เซโลน่า และผมประทับใจเขามาก ผมขอให้เป๊ปโทร.หาผมก่อนจะตกปากรับคุมสโมสรไหน แต่เขาไม่ได้โทร. แล้วก็ไปคุมบาเยิร์น เดือน ก.ค. ปี 2013”

 

เมื่อถูกถามเรื่องนี้ เป๊ป บอกว่าการพูดคุยของเขากับเฟอร์กูสัน เป็นไปไปด้วยดี แต่มีอุปสรรคเรื่องการสื่อสาร โดยระบุว่า “บางที ในตอนนั้น – คือตอนนี้มันก็ไม่ได้เพอร์เฟ็คนะ แต่มันดีขึ้นเยอะ – ภาษาอังกฤษของผมยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ และผมอาจฟังเขาไม่รู้เรื่อง”

 

“เราคุยเรื่องชีวิต เรื่องฟุตบอล เรื่องพรีเมียร์ลีก แต่ว่าเขาไม่ได้พูดอะไรเป็นนัยทำนองว่า – อาจมี ยูไนเต็ด มาเอี่ยวด้วย – หรืออะไรทำนองนั้นเลย ผมจำไม่ได้นะ คือมันก็แค่คนในวงการฟุตบอลสองคนคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ พอเขาพูดเร็วหน่อยผมก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้ว แต่มันเป็นการคุยที่ดี เขาเลือกภัตตาคารได้สวยมาก และแน่นอนว่าเขาเป็นคนเลี้ยง”

 

ขณะเดียวกัน เป๊ป ก็ยืนยันว่า ซิตี้ เป็นทีมเบอร์หนึ่งของเขาในลีกผู้ดีหากเขาจะมาทำงานด้วย เพราะว่า คัลดูน อัล มูบารัค ประธานซิตี้ และ ซีกิ เบกิริสไตน์ ตามจีบมาตลอด “ในช่วงนั้น ผมคุยกับบาเยิร์นแล้ว และผมตัดสินใจแล้วว่าอยากไปหาประสบการณ์วิเศษที่เยอรมัน บาเยิร์น มิวนิคเป็นทีมแรกที่โทร.หาผมเช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ผมตัดสินใจไปเยอรมัน เรียนภาษาเยอรมัน และหาประสบการณ์ที่นั่น”

 

“จากนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่หายไปไหนตั้งแต่ต้น ผมบอกว่า – โอเค ถ้าผมจะไปพรีเมียร์ลีก ผมจะไปทำงานกับพวกเขาเพราะผมได้พบ ซีกิ ได้พบคัลดูน ช่วงท้ายๆ ที่เยอรมัน และพวกเขาแสดงให้เห็นว่าสนใจในตัวผมมากกว่าทีมไหนๆ มันสำคัญกับผมนะ และเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาที่นี่ เชื่อผม ผมไม่มีอะไรเสียใจเลย”

 

แม้ยืนยันความภักดีกับซิตี้ แต่ เป๊ปยกย่อง เฟอร์กูสัน ที่เขาคุม บาร์ซ่า ชนะ ยูไนเต็ด รอบชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก สองสมัยปี 2009 และ 2011 อย่างยิ่งใหญ่ว่า “สิ่งที่เขาทำมันวิเศษมาก บางครั้งคุณก็โชคดีที่ได้เป็นผู้จัดการทีมในช่วงๆ หนึ่งที่คุณมีทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะมหัศจรรย์ และคว้าแชมป์มากมาย เขาสามารถก้าวผ่านจากเจเนเรชั่นนั้นมา สร้างเจเนเรชั่นใหม่ และคว้าแชมป์ได้อีก มันยากมากนะ”

 

“ผมเคารพคนที่ทำงานยาวนาน ไม่เพียงเซอร์ อเล็กซ์ เท่านั้น แต่ทั้งอาร์แซน (เวนเกอร์) และ โชเซ่ เพราะมันมีความหมายกับผม ฟุตบอลก็คือฟุตบอล และมันมีคนใหม่ๆ เข้ามา และในที่สุดแล้วคุณจะพูดว่า – ว้าว – มันเป็นเวลาที่ยาวนานมาก และผมประทับใจเส้นทางอาชีพของเขามาก”

 

คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —>

บทวิเคราะห์อื่นที่น่าสนใจ