ปิดฉากกันไปเรียบร้อยสำหรับ ศึก เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ผลเป็นอันว่าแชมป์เป็นของ “ฉลามชลโต๊ะเล็ก” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี และรองแชมป์เป็นของ “สิงห์คลองเตย” การท่าเรือ ฟุตซอลคลับ ส่วน 2 ทีมอกหักเป็นทาง นนทบุรี และ นครราชสีมา เดอมอล์ล วี-วัน ที่ต้องหล่นไปเล่น เดอะแชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้า เราจึงรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ในฤดูกาล 2017 นี้ แบบสุดๆ มาฝากกันครับ
1.แกร่งที่สุด
“ฉลามชลโต๊ะเล็ก” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ได้รับรางวัลไปครอง หลังพวกเขาซิวแชมป์ไปก่อนจบฤดูกาล 1 นัด แถมเปิดประวัติศาสตร์ 1 ปี 2 โทรฟี่ หลังจากที่ก่อนฤดูกาลจะเริ่มในช่วงต้นปี พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี สามารถไปผงาดในเวทีระดับเอเชีย โดยการไปคว้าแชมป์ในศึกฟุตซอล ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย 2017 ได้มาครอบครองเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร ก่อนที่ปลายจะได้แชมป์ เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 เป็นถ้วยที่สอง และในครั้งนี้เป็นการคว้าแชมป์เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน และเป็นสมัยที่ 9 จากการแข่งขันฟุตซอลไทยลีกที่จัดมาทั้งหมด 10 ครั้ง ของพวกเขาในนาม “ฉลามชลโต๊ะเล็ก” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี
2.กุนซือดีที่สุด
ถึงแม้จะไม่สามารถพาทีมการท่าเรือได้แชมป์ในปีนี้ก็ตามแต่ “โค้ชดม” อุดม ทวีสุข หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมการท่าเรือ ได้รับรางวัลนี้ไปครอง เพราะในปี 2017 ต้องขอยกย่องและพูดได้เลยว่าเป็นปีทองของ “โค้ชดม” จริงๆ ด้วยผลงานพาทัพฟุตซอลหญิงชุดเหรียญทองประวัติศาสตร์อินดอร์เกมส์ 2017 ที่ประเทศเติร์กเมนิสถาน และพาสโมสรการท่าเรือ ฟุตซอลคลับ คว้าแชมป์ฟุตซอลสโมสรชิงแชมป์อาเซียน 2017 ซึ่งเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.60 ก็ยังได้รับรางวัลโค้ชดีเด่นในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2560 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย อีกด้วย
3.คมที่สุด
“วิน” นาวิน รัตนวงศ์สวัสดิ์ สังกัดอยู่ “อัศวินเมืองหลวง” สโมสรแบงค็อก บีทีเอส ทำให้วงการโต๊ะเล็กลีกไทยถึงกับตกตะลึงกับการที่ “เจ้าวิน” คว้ารางวัลดาวซัลโวในศึก เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ประจำฤดูกาลนี้ไปครอง ด้วยการระเบิดประตูไปถึง 24 ประตู แซงหน้า “เจ้าอาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง กองหน้าของ ”ฉลามชลโต๊ะเล็ก” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี และ นนธ์พรรณ์ โพธิ์พืช ศูนย์หน้าของทีม “โลมาสีน้ำเงิน” พัทยา ไท-เทค ที่ยิงได้ 23 ประตูเท่ากันไปแบบต่อหน้าต่อตาเฉย
4.พรุนที่สุด
เป็นสองเกมแห่งปีที่หวดกันสนั่นหวั่นไหว ชนิดที่ไม่สามารถลุกไปเข้าห้องน้ำเลย เป็นเกมเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2560 ที่เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี โดยทาง แบงค็อก บีทีเอส เปิดบ้านไล่ถล่ม พัทยา ไทย-เทค ไปถึง 12-2 และอีกหนึ่งเกมเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2560 ที่สนามพีทีที บลูเวฟ อารีน่า เทศบาลเมืองชลบุรี และเป็น พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่เปิดบ้านไล่ยำใหญ่ใส่ ศรีสะเกษ ไปขาดลอยถึง 12-2 และสำหรับทีมที่โดยยิงเยอะจนพรุนที่สุดในฤดูกาล 2017 ก็คือ นครราชสีมา เดอะมอล์ล วี-วัน ที่โดนกะซวกเน้นๆ 127 ประตู
5.เก็บแต้มน้อยที่สุด
ก็คงจะหนีไม่พ้นสำหรับทีม นครราชสีมา เดอะมอล์ล วี-วีน ทีมอันดับสุดท้ายของตารางที่ทำผลงานได้แย่ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเลยก็ว่าได้ โดยในฤดูกาล 2017 นี้ นครราชสีมา เดอะมอล์ล วี-วีน ลงแข่งทั้งหมด 26 นัด ชนะแค่ 3 นัด เสมอไป 2 นัด และแพ้ถึง 21 นัด โดยยิงคู่แข่งได้ 63 ประตู และเสียประตูถึง 127 ลูก ผลต่าง -64 ลูก สุดท้ายเก็บแต้มได้แค่ 11 คะแนนเท่านั้น ทำให้เป็นทีมแรกที่ตกชั้นไปอย่างรวดเร็วในโต๊ะเล็กลีกสูงสุดของปีนี้
6.ยิงเยอะที่สุด
คงหนีไม่พ้นทีมแชมป์ในฤดูกาลนี้อย่าง “ฉลามชลโต๊ะเล็ก” พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่ไล่ถล่มคู่แข่งตลอดฤดูกาลไปถึง 119 ประตู ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชหมีริญโญ่” รักษ์พล สายเนตรงาม หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมพีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่กับมาสร้างชื่อของตัวเองอย่างมากมาย จนกลายเป็นโค้ชจอมแทกติกที่ทำทีมได้อย่างรัดกุม จนทำให้ถล่มคู่แข่งมากที่สุดในปีนี้จนได้รับรางวัลนี้ไปครอง
7.ผู้ชมเยอะที่สุด
ลงภาคใต้ไปที่เกมระหว่าง สุราษฎร์ธานี ที่เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทาง พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ก่อนที่เจ้าบ้านจะเอาชนะทาง “ฉลามชลโต๊ะเล็ก” ไปได้ 7-5 ที่สนามช้างตาปี อารีน่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2560 โดยแฟนคลับโต๊ะเล็กสุราษฎร์ธานี ก็ไม่ผิดหวังที่ได้เดินทางเข้ามาให้กำลังใจทีมรักที่สนามจำนวนทั้งสิ้น 4,623 คน เกือบเต็มความจุของสนาม แถมสร้างประวัติศาสตร์เป็นเกมที่มีแฟนฟุตซอลเข้าชมมากที่สุด ในการแข่งขัน เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ซึ่งขายบัตรเพียงใบละ 60 บาทเท่านั้น โดยเก็บค่าเข้าชมไปได้ทั้งสิ้น 277,380 บาท แต่ทั้งหมดทั้งมวลถือว่าเป็นข่าวดีในทิศทางของวงการฟุตซอลไทยลีกบ้านเรา
8.แนวที่สุด
หลายๆท่านที่เป็นแฟนคลับของวงการโต๊ะเล็กไทยมานาน คงจะจำบุคคลคนนี้ได้ดีนั่นก็คือ เศรษฐกีชัย ชื่นตา หรือชื่อเดิม “สมคิด ชื่นตา” อดีตนายทวารจอมหนึบทีมชาติไทยวัย 37 ปี ที่เคยผ่านศึกเวิลด์คัพ มาแล้ว 2 สมัยในปี 2004 กับ 2008 ซึ่งปัจจุบันเป็นกุนซืออยู่ทีม “โลมาสีน้ำเงิน” พัทยา ไท-เทค ที่เปลี่ยนลุกที่สุดก็เพราะว่า ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทรงผมของเขาเป็นทรงที่วัยรุ่นเอามากๆเสียไม่มีนั่นก็คือ ทรงกะลาคลอบ หรือ “ทรงหน้าม้า” นั่นเอง ถือได้ว่าเป็นกุนซือจอมตลกและเชื่อมั่นในตัวเองสูงจริงๆ
9.หล่อที่สุด
ถ้าให้พูดถึงว่าใครหล่อที่สุดในฤดูกาล 2017 ก็คงจะหนีไม่พ้น “เจ้าเตอร์” ปาณัสม์ กิตติภาณุวงศ์ แข้งดาวรุ่งวัย 20 ปี ที่แจ้งเกิดแบบเต็มตัวกับทีมชาติไทย ในชุดคว้าแชมป์อาเซียน 2016 และ 2017 นอกเหนือจากผลงานในสนามที่โดดเด่นเกินวัย แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เหล่าสาวเล็กสาวใหญ่ต่างพากันส่งเสียงกรี้ดยามแข้งฟุตซอลหน้าใส บรรเลงเพลงแข้ง เพราะความหล่อของ “เจ้าเตอร์” ทำเอาถูกอกถูกใจคว้าใจสาวๆไปได้ทั้งประเทศ และได้ยินข่าวมาแว่วๆว่าในฤดูกาลหน้าอาจจะย้ายไปเล่นในลีกของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย แต่จะเป็นทีมไหนต้องติดตามกันให้ดีๆ
10.ฉาวที่สุด
คงจะหนีไม่พ้นสองเกมสำคัญในปีนี้ เหตุการณ์แรกเป็นเกมเมื่อวันที่ 8 เม.ย.60 ระหว่างเกมเอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีกคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง สมุทรสาคร ฟุตซอลคลับ จ่าฝูงในขณะนั้น เปิดสนามโรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย พบกับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นหลังจากแฟนบอลเจ้าภาพออกอาการหัวร้อนวิ่งเข้ามาในสนามออกหมัดใส่ “เจ้าเนิส” จิรวัฒน์ สอนวิเชียร แข้งทีมชาติไทยหลังดาวเตะรายนี้ไปศอกใส่แข้งทีมรัก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทีมเจ้าบ้านตามหลัง 0-2 โดยแฟนบอลรายหนึ่งไม่ทราบชื่อไม่พอใจที่ “เจ้าเนิส” ไปเจตนาฟันศอกใส่ ประสิทธิชัย ประสงศิลป์ แข้งเจ้าบ้านก่อนจะวิ่งลงมาในสนามออกหมัดใส่แข้งรายนี้ก่อนที่เจ้าหน้าที่ในสนามจะนำตัวแฟนบอลออกจากสนามไป โดยหลังเกมจบไม่นาน “เจ้าเนิส” ก็ได้โพสต์รูปภาพตัวเขาในระหว่างเกมลงอินสตาแกรมของตัวเอง (jirawat_6) พร้อมข้อความว่า “ผมยอมรับความผิด ผมขอโทษคับ #ขอบคุณเพื่อนทั้ง 2 คนที่ให้อภัยและเข้าใจผม” และสำหรับเหตุการณ์นี้ทางฝ่ายจัดก็ได้มีบทลงโทษโดยห้ามแฟนบอลของ สมุทรสาคร เข้าชมเป็นเวลา 2 นัดด้วยกัน
สำหรับเหตุการณ์ที่สอง เป็นเกมนัดรองสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2560 ที่สนามโกดัง สเตเดี้ยม หลังจากที่การท่าเรือ เปิดบ้านทำได้แค่เสมอ แบงค็อก บีทีเอส 3-3 ทำให้การท่าเรือ หมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไปโดยปริยาย หลังจากจบเกมก็ได้มีเหตุการณ์แฟนบอล ล้อมผู้ตัดสินห้ามออกจากสนาม แต่โชคดีที่ตำรวจได้คุ้มกันนำตัวผู้ตัดสินออกไปก่อนเกิดเหตุรุนแรง โดยนำรถไปรับถึงห้องผู้ตัดสินนำตัวไปที่โรงพักเพื่อฟลีกเลี่ยงความวุ่นวาย และหลังจากนั้นผู้สื่อข่าวสาวที่ไปทำข่าวก็ถูกแฟนบอลกระชากผม และมีปากเสียงกันอีกด้วยแต่ตำรวจมาแยกเอาไว้ได้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายนี้ขึ้นทางฝ่ายจัดการแข่งขันก็ได้มีบทลงโทษ สั่งปรับเงิน 30,000 บาท และห้ามทีมการท่าเรือ ใช้รังเหย้าในเกมสุดท้ายของฤดูกาล แต่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.60 ที่ผ่านมาก่อนเกมนัดปิดฤดูกาล ระหว่างการท่าเรือ พบกับ พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี ที่สนามอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ตัวแทนกองเชียร์ของทางการท่าเรือ ก็ได้ออกมาขอโทษต่อสื่อมวลชนหลังเกมความวุ่นวายเมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ต่างฝ่ายต่างขอโทษที่ได้กระทำลงไป ทำให้เรื่องราวต่างๆนั้นจบลงไปด้วยดี จับมือเป็นพี่น้องเหมือนเดิม
และทั้งหมดนี้คือบทสรุป 10 ที่สุดทั้งหมดของการแข่งขัน เอไอเอส ฟุตซอล ไทยลีก 2017 ลีกอาชีพของเมืองไทย ในปีพ.ศ.2560 ที่มีทั้งสุขสมหวัง และผิดหวังไปด้วยกัน หวังไว้ว่าในปีหน้าฟ้าใหม่ พวกเราวงการโต๊ะเล็กลีกสูงสุดของคนไทยทุกคน จะมีแต่รอยยิ้ม มีความสุข ในการเชียร์ทีมรักของตัวเอง แพ้-ชนะ รู้จักการให้อภัยกัน สุดท้ายขอให้ทุกๆท่านและทุกๆสโมสร ประสบความสำเร็จทุกประการครับ
คลิ๊กลิงค์ —>
คลิ๊กลิงค์ —>
