Preview : ( เฟร้นช์ ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ ) ปารีส แซงต์-แชร์กแมง – โมนาโก 31 มีนาคม 2561

ปรีวิว เฟร้นช์ ลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม 2561

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ลีก เอิง) – โมนาโก (ลีก เอิง)
Paris Saint-Germain (Ligue 1) – Monaco (Ligue 1)

ถ่ายทอดสดเวลา 02.05 น. : บีอิน สปอร์ตส์ 3

 

สนาม : มัตมุต อั๊ตล็องติก (บอร์กโดซ์, สนามกลาง)

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์เก่าและจ่าฝูงลีก เอิง จะปะทะ อาแอส โมนาโก รองแชมป์เก่าและรองจ่าฝูงลีก เอิง ที่สนามกลางใน มัตมุต อั๊ตล็องติก, บอร์กโดซ์ แคว้น นูแวล-อากีแตน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ในศึกบิ๊กแมตช์ฟุตบอลถ้วยเมืองน้ำหอม รายการ ”เฟร้นช์ ลีก คัพ” ฤดูกาล 2017 – 2018 รอบชิงชนะเลิศ

สำหรับกฎกติกาการแข่งขัน เฟร้นช์ ลีก คัพ เป็นระบบน็อกเอาต์ หากจบ 90 นาที เสมอกัน จะไม่มีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แต่จะยิงจุดโทษตัดสินหาผู้ชนะทันที โดยมีการนำเทคโนโลยี วีเออาร์ มาใช้ ด้วยการดูวิดีโอเพื่อช่วยงานผู้ตัดสิน

ทั้งสองยักษ์ใหญ่โคจรมาพบกันอีกครั้ง เป็นคู่ชิงโทรฟี่แชมป์เฟร้นช์ ลีก คัพ เหมือนกับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว วันนั้น เสาร์ที่ 1 เมษายน 2017 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้อน โมนาโก ขาดลอย 4-1 ศึกเฟร้นช์ ลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศในสนามกลางที่ ปาร์ก โอลิมปิก ลียอนเน่ส์, เดซีนส์-ชาร์กปิเยอ สนามของทีมลียง ต่อหน้าผู้ชมในสนาม 57,841 คน

เปแอสเช ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์เฟร้นช์ ลีก คัพ มากที่สุดที่จำนวน 7 สมัย ปี 1995, 1998, 2008, 2014, 2015, 2016, 2017 พวกเขาเป็นรองแชมป์ครั้งเดียวปี 2000 เมื่อพลิกล็อกแพ้ เกอญง จากลีก เดอซ์ 0-2 ในนัดชิงชนะเลิศ

ซีซั่นนี้ เปแอสเช ได้แชมป์ไปแล้ว 1 รายการคือ แชมป์โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ 2017 เป็นการแข่งขันที่นำแชมป์ลีก เอิง ปะทะ แชมป์เฟร้นช์ คัพ เตะกันทุกปีก่อนที่ ลีก เอิง ฤดูกาลใหม่เปิดฉากขึ้น

ปารีส แชมป์เฟร้นช์ คัพ สยบ โมนาโก แชมป์ลีก เอิง 2-1 ที่ กร็องด์ สต๊าด เดอ ท็องเช่ร์ เมือง ท็องเช่ร์ ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2017

ส่วน โมนาโก คว้าแชมป์เฟร้นช์ ลีก คัพได้เพียงหนเดียวในปี 2003 ด้วยผลงานต้อน โซโชซ์ 4-1 ในนัดชิงชนะเลิศ ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์-เดอนีส์ สนามแห่งชาติ ที่ตั้งอยู่ชานกรุงปารีส

แต่ยักษ์ใหญ่แดนใต้ เป็นรองแชมป์ศึกนี้ถึง 3 ครั้งในปี 1984, 2001, 2017

อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์ชาวสแปนิชวัย 46 ปี ของ เปแอสเช นำสโมสรชนะ 3 เกมติดต่อกัน หลังจากบุกชนะ นีซ 2-1 ในลีก เอิง นัดที่ 30 เมื่อคืนวันอาทิตย์ 18 มีนาคม

เวลานี้ทีมไม่มี เนย์มาร์ ซุป ”ตาร์ กัปตันทีมชาติบราซิล พักนาน 3 – 4 เดือน ภายหลังจากที่เขาเข้ารับการผ่าตัดที่กระดูกเท้าขวาหักที่ โรงพยาบาลมาร์เตเด ใน เบโล โอรีซอนชี ประเทศ บราซิล เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม

ส่วน ติอาโก้ ม็อตต้า กองกลางอิตาลีวัย 35 ปี ติดโทษแบนนัดที่ 2 ในโทษแบนยาว 3 นัด

ทว่าทีมได้ผู้เล่นหลายคนกลับมาจากการรับใช้ชาติในเกมกระชับมิตรทั้ง อัลฟงส์ อาเรโอล่า, เอดินสัน คาวานี่, อังเคล ดิ มาเรีย, มาร์โก แวร์รัตติ, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, อาเดรียง ราบิโอต์, เพรสแนล คิมเพมเบ้ รวมถึงแก๊งบราซิล มาร์กินโญส, ติอาโก้ ซิลวา กัปตันทีม, ดาเนียล อัลเวส

ในรายของ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกอาร์เจนตินา นักเตะยอดเยี่ยมเฟร้นช์ ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาขวาที่เกิดขึ้นระหว่างลงเล่นทีมชาติ กลับมานำเกมรุก

ขณะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส วัย 19 ปี หายเจ็บที่เท้า, มาร์กินโญส กองหลังทีมชาติบราซิลหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย, ยูริ เบร์ชีเช่ แบ็กซ้ายสเปนหายเจ็บข้อเท้า

เขาจะพัก อัลฟงส์ อาเรโอล่า ผู้รักษาประตูมือ 1 แล้วให้ เควิน ทรัปป์นายทวารเยอรมัน ยืนด่านสุดท้ายเหมือนทุกเกมในศึกบอลถ้วย เฟร้นช์ คัพ และ เฟร้นช์ ลีก คัพ

เลโอนาร์โด้ ชาร์ดิม เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสของโมนาโก วัย 43 ปี นำทีมไม่แพ้ 9 เกมติดต่อกัน หลังจากเปิดบ้านชนะ ลีลล์ 2-1 ในลีก เอิง นัดที่ 30 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 16 มีนาคม

สภาพทีมเวลานี้ ชาร์ดิม ขาด ปิเอโตร เปลเลกรี กองหน้าอิตาลีวัย 16 ปี บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา เข้ารับการผ่าตัด เมื่อวันอังคารที่ 6 มีนาคม ซึ่งเขาต้องพักรักษาตัวนาน 3 เดือน

และ เกอิต้า บัลเด้ ดิเยา กองหน้าเซเนกัล บาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา, ดีเอโก้ เบนาโญ่ นายทวารสวิตเซอร์แลนด์ บาดเจ็บหัวเข่าซ้าย, อดาม่า ตราโอเร่ มิดฟิลด์ตัวรุกมาลีบาดเจ็บโคนขาหนีบซ้าย

ทางด้าน ราดาเมล ฟัลเกา ดาวยิงทีมชาติโคลอมเบีย กัปตันทีมหายเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาซ้าย กลับจากการเล่นทีมชาติเช่นเดียวกับ ซิดิเบ้, โตมาส์ เลอมาร์, คามิล กลิค และ ชูเอา มูตินโญ่ กองกลางโปรตุเกสวัย 31 ปี ที่ต่อสัญญากับสโมสรไปจนถึงปี 2020 ซึ่งเขาค้าแข้งที่นี่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2013 ลงเล่นไปแล้ว 211 นัด ในทุกรายการ ยิง 11 ประตู ทำ 39 แอสซิสต์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง : เควิน ทรัปป์ – ดาเนียล อัลเวส, มาร์กินโญส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), ยูริ เบร์ชีเช่ – มาร์โก แวร์รัตติ, ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, อาเดรียง ราบิโอต์ – คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, เอดินสัน คาวานี่, อังเคล ดิ มาเรีย

โมนาโก : ดานิเยล ซูบาซิช – ฌิบริล ซิดิเบ้, คามิล กลิค, เชแมร์ซอน, อันเดรีย ราจจี้ – ฟาบินโญ่, ชูเอา มูตินโญ่ – โรนี่ โลเปส, สเตวาน โยเวติช, โตมาส์ เลอมาร์ – ราดาเมล ฟัลเกา (กัปตันทีม)

ผู้ตัดสิน : เกลม็องต์ ตูร์กแป็ง


ที่มา : Siamsport

บทวิเคราะห์อื่นที่น่าสนใจ