ทางฝั่งทีมเยือนใช้ ร็อบ เอลเลียต เป็นผู้รักษาประตู แนวรับ คีแรน คลาร์ก จับคู่กับ ฟลอริยอง เลอแชง แดนกลาง เจค็อบ เมอร์ฟีย์, จอร์โจ้ เชลวีย์ แนวรุก แมตต์ ริชชี โดยมี โฆเซลู จับคู่ในแดนหน้าร่วมกับ ดไวท์ เกล
ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาที 14 จากจังหวะที่ ดีอันเดร เยดลิน เติมขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ ดไวท์ เกล ยิงเสียบเสาสองเข้าประตูไป นิวคาสเซิลนำ 1-0
เจ้าบ้านได้ประตูแซงนำในนาที 45+1 จากจังหวะที่ แอชลีย์ ยัง เปิดบอลให้ คริส สมอลลิง เติมขึ้นมาโหม่งบอลยัดเสาแรกเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดนำ 2-1
ครึ่งหลังเจ้าบ้านได้ประตูที่สามในนาที 54 จากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดบอลเข้ากลางให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด
โหม่งตั้งกลับมาให้ ปอล ป็อกบา ยิงจ่อๆเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดนำ 3-1
เจ้าบ้านได้ประตูที่สี่ในนาที 71 จากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเลี้ยงตัดเข้าในมาทำชิ่งกับ ฆวน มาต้า หลุดเข้าไปซัดจ่อๆเข้าประตูไป แมนฯยูไนเต็ดนำ 4-1
นาที 77 เจ้าบ้านส่ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ลงมาแทน อ็องโตนี มาร์กซิยาล ถือเป็นการคัมแบ็คของดาวยิงสวีดิชในรอบกว่า 7 เดือนอีกด้วย
จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดไปได้ 4-1 คว้า 3 คะแนนเก็บเพิ่มเป็น 26 คะแนนรั้งรองจ่าฝูง ส่วนทีมเยือนมี 14 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 11